คำถามที่พบบ่อย

ตอบ : สามารถใช้พ่นได้บ่อยตามต้องการไม่ต้องรอให้เกิดอาการไอ ฉีดพ่นครั้งละ 2-3 ที โดยไม่ทำให้เกิดการดื้อยา ช่วยให้ชุ่มคอ
ตอบ : เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
ตอบ : สำหรับสเปรย์แก้ไอ ตราตะขาบ 5 ตัว ยังไม่เคยทดสอบกับเชื้อ COVID-19 แต่ผ่านการทดสอบร่วมกับการศึกษาวิจัยตัวอย่างในระดับห้องปฏิบัติการ โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สวทช. ว่าสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุอาการคออักเสบ (Pharyngitis) ได้มากกว่า 99.9% ภายในเวลา 5 นาที และยังมีสารไพโรแกลลอล (Pyrogallol) ที่ต้านทานการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตอบ : สเปรย์แก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว มีอายุ 2 ปี นับจากวันที่ผลิต ซึ่งวันหมดอายุจะระบุอยู่ที่ข้างผลิตภัณฑ์
ตอบ : ไม่ทำให้ลิ้นดำ แล้วยังช่วยให้ตัวยาถึงบริเวณลำคอได้เร็วขึ้นอีกด้วย
ตอบ : สำหรับสเปรย์และยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว มีส่วนผสมจากสมุนไพรชนิดเดียวกัน ประกอบด้วย โง้วป่วยจี้ ชะเอมเทศ รากบัวหลวง เฮ้งยิ้ง เง็กเต็ก แบะตง ซึ่งสมุนไพรทั้ง 6 ชนิด มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการไอ ชุ่มคอ ละลายเสมหะ และด้วยนโยบายของบริษัทที่ต้องการให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงได้มีการนำนวัตกรรมเข้ามาร่วม จึงเกิดเป็นสเปรย์แก้ไอ ที่ยังคงสรรพคุณเดิม สามารถฉีดเข้าลำคอได้อย่างตรงจุด และไม่ทำให้ลิ้นดำ โดยปัจจุบันมีผลการศึกษาวิจัยตัวอย่างในระดับห้องปฏิบัติการ โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สวทช. ว่าผลิตภัณฑ์ของเราสามารถยับยั้งเชื้อแบคที่เรียอันก่อให้เกิดโรคในช่องปากที่เป็นสาเหตุอาการคออักเสบได้มากกว่า 99.9% ภายในเวลา 5 นาที
ตอบ : ส่วนผสมหลักเป็นสมุนไพรจีน ส่วนชื่อตัวยานั้นสามารถดูได้ที่เอกสารกำกับยาที่อยู่ด้านหลังซอง และยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ก็ไม่มีส่วนผสมของตะขาบ แต่อย่างใด
ตอบ : ยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว รสดั้งเดิม ประกอบด้วยสมุนไพร และกลิ่นเปปเปอร์มิ้นท์ ไม่มีส่วนประกอบของน้ำตาล สำหรับยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว รสมิ้นท์ รสบ๊วย และรสตะไคร้ ประกอบด้วยสมุนไพร กลิ่นสีตามรสชาติ และสารให้ความหวานแทนน้ำตาล (sweetener)
ตอบ : ตัวยาเป็นตัวเดียวกัน แต่มีความแตกต่างกันที่บรรจุภัณฑ์ โดยบริษัทฯได้ออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่เพิ่ม แต่คงคุณภาพ เพื่อให้ใช้ง่ายและพกพาสะดวกมากขึ้น
ตอบ : การบ้วนปากหรือแปรงฟัน หลังจากอมยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัวแล้ว จะไม่มีผลกระทบต่อสรรพคุณของยา เนื่องจากสารสำคัญในการออกฤทธิ์แก้ไอ (active ingredient) จะไหลไปสู่ลำคอแล้ว และการออกฤทธิ์ในการแก้ไอไม่ได้เกิดขึ้นในช่องปากจึงไม่มีผลอย่างแน่นอน
ตอบ : ยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว รสมิ้นท์ รสบ๊วย และรสตะไคร้ มีส่วนประกอบของน้ำตาลทราย 34.18 เปอร์เซ็นต์ (0.0215 g) หรือ 0.005 ช้อนชา/เม็ด หากรับประทานตามที่ฉลากยาระบุไว้ คือ อมครั้งละ 2-4 เม็ดเวลาไอ จะได้รับปริมาณน้ำตาลเฉลี่ยวันละ 0.172-0.344 กรัม หรือ 0.04-0.08 ช้อนชา (ปริมาณน้ำตาลในที่นี้คิดจากการรับประทานยาอม 4 ครั้งต่อวัน) ซึ่งมีปริมาณน้อย ประกอบกับระยะเวลาในการอมยาอมแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 5-7 นาที ซึ่งไม่สามารถทำให้เกิดฟันผุได้ สำหรับยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว รสดั้งเดิม ไม่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบจึงสามารถอมได้โดยไม่ต้องกลัวฟันผุ (ข้อมูลการเกิดโรคฟันผุ จากองค์การอนามัยโลก(WHO) พบว่า ยิ่งบริโภคน้ำตาลมาก ยิ่งมีฟันผุมาก อย่างมีนัยสำคัญ และถ้าบริโภคตั้งแต่ 50 กรัม/วันขึ้นไป จะมีผลต่อการเกิดโรคฟันผุ (Screebny LM., 1982) จึงแนะนำให้บริโภคน้ำตาลประมาณ 8-11 ช้อนชาต่อวัน)
ตอบ : คนเป็นโรคเบาหวานสามารถอมยาอมแก้ไอรสดั้งเดิมได้ โดยปฏิบัติตามคำแนะนำที่อยู่บนฉลากยา คือ อมครั้งละ 2-4 เม็ด เวลาไอ แต่อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชก่อนใช้
ตอบ : ไม่มีผลข้างเคียง เพราะยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ทำจากสมุนไพรธรรมชาติ สามารถใช้ติดต่อกันได้ตามความต้องการ โดยไม่ก่อให้เกิดการดื้อยา เหมือนยาปฏิชีวนะทั่วไป (พิสูจน์จากผลงานวิจัยตัวอย่างในระดับห้องปฏิบัติการ โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สวทช.) นอกจากนั้นตัวยายังไม่มีฤทธิ์กัดกร่อน หรือก่อให้เกิดความระคายเคือง
ตอบ : คนที่เคยผ่าตัดหรือกำลังรักษาแผลผ่าตัดอยู่ สามารถอมยาแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัวได้ ไม่มีผลข้างเคียงต่อแผลผ่าตัด โดยปฏิบัติตามคำแนะนำที่อยู่บนฉลากยา แต่อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้
ตอบ : ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะสมุนไพรที่เป็นส่วนผสมของตัวยานั้น เวลาโดนน้ำ จะมีสีดำจึงมีผลทำให้ลิ้นมีสีดำ และสำหรับการทำให้ลิ้นหายดำนั้น ถ้าได้รับการทำความสะอาดลิ้นแล้วสีดำที่ติดอยู่ที่ลิ้นนั้นก็จะจางหายไปเอง
ตอบ : สามารถผสมกับน้ำอุ่น หรือน้ำมะนาว แล้วใช้กวาดคอ เพื่อรักษาอาการเจ็บคอได้ และการผสมยากับน้ำอุ่น หรือน้ำมะนาวนั้นยังสามารถช่วยให้ยาเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะน้ำมะนาวมีส่วนช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้ ดังนั้นการผสมยากับน้ำอุ่นหรือน้ำมะนาวดังกล่าวจึงไม่มีผลทำให้สรรพคุณของยาลดลง Tip : 1. ตำยาให้ละเอียด 2. แช่น้ำอุ่น และน้ำมะนาว (ไม่ใส่น้ำเลยก็ได้แต่รสชาติจะเปรี้ยวจัด) 3. อย่าใส่น้ำเยอะจนเหลว
ตอบ : แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรที่ร้านยาใกล้บ้านเพิ่มเติมก่อนใช้ยา
ตอบ : ยาเม็ด จะสังเกตเห็นว่าเม็ดยาจะแตกร่วน สีเปลี่ยนไป มีจุดด่าง ขึ้นรา หรือหากเป็นยาเม็ดเคลือบน้ำตาล เม็ดยาอาจเยิ้ม เหนียว มีกลิ่นหืน หรือกลิ่นผิดไปจากเดิม ส่วนยาน้ำแบบสเปรย์จะมีความเหนียวหนืด
ตอบ : ยาแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว พิสูจน์แล้วว่า ”ลดอาการคออักเสบได้จริง” จากผลการศึกษาวิจัยตัวอย่างในระดับห้องปฏิบัติการ โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สวทช. ร่วมกับบริษัทห้าตะขาบ การศึกษานี้ยังพบเป็นครั้งแรกอีกว่า สารไพโรแกลลอล (Pyrogallol) ซึ่งเป็นสารจากธรรมชาติที่พบในยาแก้ไอ ตราตะขาบ 5 ตัวนั้น มีความสามารถต้านทานการอักเสบ (anti-inflammatory property) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการวิจัยนี้ได้ถูกนำมาตีพิมพ์ลงใน Journal of functional foods (วารสารวิชาการด้านโภชนาการและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพซึ่งเป็นที่ยอมรับในวงการวิทยาศาสตร์การอาหารระดับโลก) อ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.sciencedirect.com ( https://bit.ly/3hoQe8M )
ตอบ : สามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องจากยาขมเม็ดตราตะขาบ 5 ตัว มีสรรพคุณเป็นยาแก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้ไข้มีพิษร้อน รวมถึงเป็นยาระบายอ่อนๆ ซึ่งอาการท้องเสียรุนแรงเป็นรูปแบบของอาการข้างเคียงที่เกิดได้จากการใช้ยาในปริมาณมาก หรือใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
ตอบ : ทางบริษัทฯ มีนโยบายในการสร้างคุณภาพของสินค้าจนในปัจจุบันโรงงานได้มาตราฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) และผลิตสินค้าให้มีความหลากหลายเพื่อให้ผู้บริโภคได้มีตัวเลือก นอกจากนั้นยังค้าขายด้วยความมีน้ำใจ และซื่อตรงต่อร้านค้าพร้อมกับสร้างและพัฒนาทีมงานเพื่อความมั่นคงของบริษัทฯ อยู่เสมอ